วันอาทิตย์, 8 กันยายน 2567

สวนนงนุชพัทยา

BLB-ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม
หุบเขาไดโนเสาร์ ไฮไลต์ใหม่ของสวนนงนุช
สถานที่ท่องเที่ยวใน “พัทยา” ไม่ใช่มีเพียงแค่ชายหาด หรือเกาะต่างๆ สถานที่ท่องเที่ยวจำพวกแมนเมด ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้เป็นแหล่งรองรับนักท่องเที่ยวก็มีอยู่ไม่ต้อง แต่ที่น่าจะโดดเด่นและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ก็คือ “สวนนงนุช” สวนสวยที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน มีกิจกรรมหลากหลาย และมีมุมสวยๆ ให้ถ่ายรูปกันอย่างจุใจ
สวนนงนุชพื้นที่กว้างขวาง
นั่งรถรางชมสวน
“สวนนงนุช” ก่อตั้งโดย พิสิทธิ์ และ นงนุช ตันสัจจา โดเมื่อปี พ.ศ.2497 ได้ซื้อที่ดินจำนวน 1,500 ไร่ มาเริ่มทำสวนผลไม้ เช่น มะม่วง ส้ม มะพร้าว เป็นต้นต่อมา เมื่อได้เดินทางไปชมสวนสวยงามในต่างประเทศ ประกอบกันเป็นคนที่ชอบดอกไม้เป็นทุนเดิม จึงเกิดความคิดที่จะจัดสวนให้คนได้เข้ามาเที่ยว เลยตัดสินใจเปลี่ยนจากสวนผลไม้มาเป็นสวนที่ปลูกไม้ดอกไม้ประดับเพื่อการท่องเที่ยวและพักผ่อน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับ เช่น ที่พัก ห้องอาหาร สระว่ายน้ำ และจัดเลี้ยงสัมมนาสำหรับบริการนักท่องเที่ยวแบบครบวงจร
ส่วนหนึ่งของสะพานลอยฟ้า
สวนนงนุชพัทยา เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเมื่อปี พ.ศ.2523 พร้อมจัดให้มีการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยร่วมสมัย และการแสดงช้างแสนรู้ จากนั้นก็ได้มอบให้แก่ทายาทเข้ามาพัฒนาบริหารจัดการ จนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง เก็บรวบรวมพันธุ์ไม้เขตร้อนมากกว่า 18,000 ชนิด เป็นศูนย์กลางของสวนพฤกษศาสตร์ระดับโลก ภายใต้แนวคิดรักษ์ต้นไม้ ลดโลกร้อน และเป็นสวนสำหรับทุกคนบนโลกใบนี้จากวันที่สวนนงนุชเปิดให้บริการ นับมาถึงวันนี้ก็เกือบ 40 ปีแล้ว ภายในสวนก็มีการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง และพัฒนามาโดยตลอด ปัจจุบัน ผู้ที่จะเข้ามาชมสวนนงนุช สามารถจองตั๋วออนไลน์ล่วงหน้า หรือจะมาซื้อตั๋วที่ด้านหน้าสวนก็ได้ โดยราคาตั๋วจะแบ่งตามกิจกรรมที่เข้าชม เช่น ตั๋วเข้าชมสวนอย่างเดียว ตั๋วชมสวนและชมการแสดง ตั๋วชมสวน ชมการแสดง และรถราง เป็นต้น
สวนฝรั่งเศส
หากใครที่จะมาชมสวนนงนุช แนะนำให้มาตั้งแต่เช้า เนื่องจากมีพื้นที่กว้างขวางมาก มีการจัดสวนต่างๆ และมีจุดให้ชมมากมาย ใครที่ไม่อยากเดินเยอะ หรืออยากชมเฉพาะไฮไลต์ของสวน ก็มีรถรางให้ขึ้น โดยรถรางจะวนให้ชมรอบๆ สวนนงนุช และจอดให้ลงในบริเวณหุบเขาไดโนเสาร์ แต่ถ้าอยากเดินชมให้ทั่วๆ สวนด้วยตัวเอง นอกจากจะเดินลัดเลาะด้านล่างแล้ว ก็มีการสร้างสะพานลอยฟ้าแบบมีหลังคาขึ้นมาใหม่ ระยะทางยาวกว่า 3 กิโลเมตร ให้นักท่องเที่ยวเดินชมสวนโดยรอบได้แบบไม่ต้องเจอแดดร้อนมากนัก ซึ่งสามารถชมสวนนงนุชในแบบภาพมุมสูงได้อีกด้วย
ศาลาเทวดา
แลนด์มาร์คสำคัญในสวนนงนุชก็ต้องยกให้ “สวนฝรั่งเศส” ที่มักจะเห็นกันตามสื่อต่างๆ เดิมในบริเวณนี้เป็นดินที่ได้มาจากการขุดลอกทะเลสาบของสวนนงนุช ช่วงแรกนั้นปลูกเป็นทุ่งทางตะวัน ต่อมาก็ได้แนวคิดการจัดสวนรูปทรงเลขาคณิตมาจากสวนฝรั่งเศสที่ด้านหลังพระราชวังแวร์ซายน์ แล้วก็มีการนำสถาปัตยกรรมอื่นๆ มาประดับเพิ่มเติมให้มีความสวยแปลกตา เช่น ตุงกระด้าง เจดีย์จำลอง ตู้โทรศัพท์สีแดงจากอังกฤษ เป็นต้น และในบริเวณเดียวกันก็มี “ศาลาเทวดา” ประดิษฐานหลวงพ่อสุขใจ ให้ได้เข้าไปสักการะกันด้วย
สวนสโตนเฮ้นจ์
ด้านหลังศาลาเทวดาก็จะเป็น “สวนสโตนเฮ้นจ์” ที่ได้นำหินลักษณะแท่งสี่เหลี่ยมคล้ายกับหินที่สโตนเฮ้นจ์ ประเทศอังกฤษ มาจัดเรียงเป็นแนววงกลม ด้านหลังจะเป็น “หอคอย 4 แบบ” ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมประยุกต์จากศิลปะที่มีความสวยงาม จำลองมาจากประเทศลาว พม่า แบบล้านนา และแบบบาหลี
สะพานเชือก
อีกมุมหนึ่งที่สามารถมองจากสะพานลอยฟ้าได้ก็คือ “สะพานเชือก” หรือ “สวนดอกไม้” ที่จัดแสดงพันธุ์ไม้นานาชนิดตามฤดูกาล มีสะพานเชื่อมระหว่างสวนดอกไม้และสวนตะบองเพชร ระหว่างเส้นทางมีการนำรูปปั้นสัตร์มาประดับไว้ ทั้งเสือขาว ม้าลาย นกฮูก จิงโจ้ ฯลฯ
สวนนกฟลามิงโก้
สวนลายปีกผีเสื้อ
ประติมากรรมลิงอุรังอุตัง
นอกจากสวนที่กล่าวถึงไปแล้ว ในสวนนงนุชยังมีส่วนจัดแสดงที่เป็นสวนต่างๆ อีกหลายจุด เช่น สวนกระถาง สวนปาล์ม สวนตะบองเพชร สวนลายปีกผีเสื้อ สวนยุโรป หุบเขาปรง สวนชวนชม สวนไม้ลอยน้ำ สวนอิตาเลียน สวนสับปะรดสี สวนนกฟลามิงโก้ เป็นต้นแล้วก็ยังมีประติมากรรมสัตว์ชนิดต่างๆ ที่แทรกตัวอยู่ตามสวนและระหว่างทางเดิน เช่น เมียร์แคท จระเข้ วอลรัส เสื้อชีต้าห์ กวางมูส กระต่าย แพะภูเขา อัลปาก้า ลิงอุรังอุตัง ม้าลาย เป็นต้น
หุบเขาไดโนเสาร์
อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญที่เพิ่งสร้างขึ้นมาใหม่ นั่นก็คือ “หุบเขาไดโนเสาร์” ในปี พ.ศ.2560 ทางสวนนงนุชได้มีการปรับแต่งพื้นที่บริเวณรอบสวนฝรั่งเศสใหม่ในลักษณะของหุบเขา เพื่อที่จะตกแต่งด้วยต้นไม้และปูนปั้น โดยทดลองปั้นไดโนเสาร์ชนิดแรกในสวนนั่นก็คือ ไทรเซอราทอปส์ ปรากฎว่ามีนักท่องเที่ยวชื่นชอบและสนใจเข้ามาถ่ายรูป จึงทำให้สวนนงนุชได้เนรมิตหุบเขานี้ให้กลายมาเป็นหุบเขาไดโนเสาร์ ภายใต้ความคิดที่ว่า ไดโนเสาร์ทุกตัวจะมาจากข้อมูลอ้างอิงรูปลักษณ์ที่เหมือนที่สุดเท่าที่จะทำได้ สายพันธุ์จะต้องหลากหลายและตรงกับความเป็นจริงมากที่สุด ขนาดเท่ากับฟอสซิลที่มีการบันทึกไว้ตามจริง
จัดแสดงไดโนเสาร์สายพันธุ์ต่างๆ
มีไดโนเสาร์แปลกๆ ให้ได้ชม
ปัจจุบัน ในหุบเขาไดโนเสาร์มีรูปปั้นไดโนเสาร์มากกว่า 40 ชนิด กระจายอยู่ตามจุดต่างๆ ในหุบเขา เสมือนกับการเนรมิตสิ่งที่สูญพันธ์ไปแล้วให้กลับมามีชีวิตขึ้นอีกครั้ง และเป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับสัตว์ดึกดำบรรพ์ที่ง่ายต่อการเข้าใจ สมบูรณ์แบบ และใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยร่วมสมัย
มหกรรมกลอง
นอกจากการเดินชมสวนสวยๆ แล้ว ที่สวนนงนุชก็ยังมีการแสดงน่าสนใจอีก 2 อย่าง คือ “การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยร่วมสมัย” มีการผสมผสานทั้งการร่ายรำ และศิลปะการต่อสู้ บนฉากหลังตระการตา เช่น ระบำสี่ภาค มหกรรมกลอง ยุทธหัตถี ฯลฯ โดยแต่ละวันจะมีการแสดง 4 รอบ
ช้างวาดรูป
การแสดงช้างแสนรู้
อีกหนึ่งการแสดงคือ “การแสดงช้างแสนรู้” ที่สามารถเพลิดเพลินไปกับการแสดงของช้างแสนรู้ในสวนนงนุช ทั้งเตะฟุตบอล บาสเก็ตบอล การวาดภาพ เต้น การเดินข้ามคน โดยมีการแสดงวันละ 4 รอบ

ใครที่จะเข้ามาชมที่สวนนงนุช แนะนำให้มากันตั้งแต่เช้า และอาจจะใช้เวลาอยู่ในสวนกันทั้งวัน หากต้องการชมให้ครบทุกจุด เนื่องจากสวนมีพื้นที่กว้าง มีจุดถ่ายรูปสวยๆ หลายจุด และยังมีกิจกรรมอื่นๆ ให้ทำอีกนอกจากการเดินสวน ชมการแสดงต่างๆ แล้วก็ยังมีปั่นจักรยานชมสวน ให้อาหารปลาช่อนอเมซอนยักษ์ ปั่นจักรยานน้ำ นั่งช้างชมสวน เป็นต้น
นั่งช้างชมสวน

“สวนนงนุช” ตั้งอยู่ที่ ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เปิดบริการทุกวัน เวลา 08.00-17.30 น. ค่าเข้าชมสวน 200 บาท ค่าเข้าชมสวน+การแสดงศิลปวัฒนธรรมและช้างแสนรู้ 500 บาท สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0-3823-8061-63 www.nongnoochtropicalgarden.com